วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555


วันพ่อแห่งชาติ




วันพ่อแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี 
เป็นวันเฉลิมพรชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เเละยังถือเป็น"วันชาติ"อีกด้วย

๏ ประวัติความเป็นมาของวันพ่อแห่งชาติ        

       วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา หลักการและเหตุผลที่มีการจัดตั้งวันพ่อขึ้นแห่งชาติ เนื่องจากพ่อ เป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคมที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็น "วันพ่อแห่งชาติ"

ประมวลภาพ ในหลวง เสด็จออก ณ สีหบัญชร 5 ธันวาคม 2555

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู๋หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชร ในวันที่ 5ธันวาคม พ.ศ. 2555

๏ วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันพ่อแห่งชาติ

1.  เพื่อเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะพ่อของแผ่นดิน ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย
2.  เพื่อให้ผู้เป็นลูกได้สำนึกถึงพระคุณของพ่อ และตระหนังถึงหน้าที่ของลูกที่พึงมีต่อพ่อ ได้แก่ การแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ ดูแลเอาใจใส่ในสุขภาพทั้งทางกายและใจ นอกจากนี้ต้องดูแลให้พ่อได้รับความสุขกายสบายใจอยู่ตลอดเวลา
3.  เพื่อให้ผู้ที่เป็นพ่อได้ตระหนักถึงหน้าที่ของตนที่พึงมีต่อบุตร ธิดา และครอบครัว
4.  เพื่อเผยแพร่พระคุณ และบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
5.  เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึง บทบาท และพระคุณของพ่อที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
6.  เพื่อประกาศเกียรติคุณให้กับพ่อ และลูกที่ปฏิบัติหน้าที่ของตนได้เป็นอย่างดี สมควรแก่การชื่นชมยกย่องของสังคมโดยทั่วไป
7.  เพื่อรักษาประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป ทั้งนี้ประเพณีที่ดีงามของคนไทยนั้นผู้ที่เป็นลูก สมควรที่จะแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่เป็นพ่ออย่างยิ่ง
8.  เพื่อยกย่องพ่อดีเด่น และลูกที่มีความกตัญญูต่อพ่อ

๏ กิจกรรมที่ร่วมปฏิบัติในวันพ่อแห่งชาติ 

1.    พิธีสดุดีพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ สถานที่ที่ทางราชการกำหนดขึ้น เช่น ลานพระราชวังสวนดุสิต (ลานพระบรมรูปทรงม้า) สนามหลวง
2.    พิธีถวายชัยมงคลจากศาสนาต่าง ๆ ได้แก่ ศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ และซิกข์
3.    จัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทางสื่อต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์
4.    มอบรางวัลให้กับพ่อดีเด่น




ดอกไม้ประจำวันพ่อแห่งชาติ
 
     วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันพ่อแห่งชาติ กำหนดขึ้นครั้งแรก ในปี 2523 และ กำหนดให้ ดอกพุทธรักษาสีเหลือง เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ
 
วันพ่อแห่งชาติมีดอกพุทธรักษาเป็นสัญลักษณ์ประจำ
 
ดอกพุทธรักษาสีเหลือง เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ
 
     พุทธรักษาซึ่งหมายถึง พระพุทธเจ้าทรงปกป้องคุ้มครอง ให้มีแต่ความสงบสุขร่มเย็น ซึ่งมีเรียกกันมากว่า 200 ปี และสีเหลืองอันเป็นสีประจำวัน พระราชสมภพขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของปวงชนชาวไทย การมอบดอกพุทธรักษาให้กับพ่อ จึงเสมือนกับการบอกถึง ความรักและเคารพบูชาพ่อ ผู้สร้างความสงบสุขร่มเย็นให้แก่ครอบครัว


     วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือวันพ่อแห่งชาติ มีความเป็นมาของวันสำคัญ คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาล เมาท์ ออเบิร์น นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา โดยนายแพทย์วิทท์มอร์เป็นผู้ถวายการประสูติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 9 แห่งบรมจักรีวงศ์ กรุงรัตนโกสินทร์ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจและเจริญพระราชจริยาวัตรเป็นเอนกประการจำเนียรกาลผ่านมาถึงปัจจุบันที่สุดจะพรรณนาให้ครบถ้วนได้ท่ามกลางมหาสมาคมวันพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกทรงมีกระแสพระราชดำรัสที่ พสกนิกรทุกคนยังจดจำได้ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมอันคำว่าโดย ธรรมนั้น ทรงหมายถึง ธรรมอันล้ำเลิศที่เรียกว่า ทศพิธราชธรรมหรือที่เรียกกันโดยสามัญว่า ราชธรรม 10 ประการ


วันพ่อแห่งชาติ 2554

พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

     ราชธรรม 10 ประการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยึดมั่นทรงปฎิบัติโดยเคร่งครัด และส่งผลถึงพสกนิกรทั่วพระราชอาณาจักรนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเหนือเกล้าฯ ห่วงใยตั้งแต่พระเยาว์จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งพระเจ้าหลานเธอทุกพระองค์ต่างซาบซึ้งและปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมิรู้ลืม พระองค์ทรงเป็น พ่อตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรงห่วงใยอย่างหาที่เปรียบมิได้

     “...บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นร่มเย็นปกติสุขมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติและต่างร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันทำหน้าที่โดยนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด ท่านทั้งหลายในสมาคมนี้ ตลอดจนคนไทยทุกหมู่เหล่า จึงควรทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนไว้ให้กระจ่างและนำไปปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ด้วยความไม่ประมาท และด้วยความมีสติ…”

      (พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น